5 อันดัุบ มหาลัย ในประเทศนิวซีแลนด์

                  ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นประเทศที่มีนักเรียนไทย ให้ความสนใจไปเรียนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากไม่ไกลจากประเทศไทยมากนัก บวกกับ เป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูง และมีสถาพแวดล้อมที่ดีมาก

มหาวิทยาลัยของนิวซีแลนด์ ติด Top 400 อยู่หลายที่ ส่วน Top 5 ของนิวซีแลนด์ สามารถดูได้ตาม List ครับ

อันดับ	ชื่อ มหาวิทยาลัย	อันดับโลก
1	University of Auckland	82
2	University of Otago	130
3	University of Canterbury	212
4	Victoria University of Wellington	237
5	Massey University	329

เทศกาลสำคัญ

เทศกาลโกลเด้น เชียร์ส

เทศกาล โกลเด้น เชียร์ส เป็นเทศกาลแข่งขันตัดขนแกะของช่างตัดขนแกะที่มีความชำนาญในการตัวขนแกะมาทำการแข่งขันกันเพื่อให้ผู้ชนะในความเป็นหนึ่งของการตัดขนแกะ ซึ่งถือได้ว่าเป็นเทศกาลที่แปลกอย่างมากเพียงการตัดขนแกะก็สามารถเป็นเทศกาลที่สร้างความสนุกสนานและความน่าสนใจของเทศกาลได้เป็นอย่างดี


โดยเทศกาลโกลเด้น เชียร์ส นั้นได้มีการจัดขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1961 การแข่งขันนั้นก็จะมีแบ่งออกเป็นรุ่นต่าง ๆ ในการแข่งขัน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันมากถึง 120 คน ที่จะแบ่งตามความชำนาญเป็นระดับเพื่อทำการแข่งขันกันอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้แล้วยังมีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่ให้ความสำคัญกับเทศกาล โกลเด้น เชียร์ส นี้อย่างมาก

สำหรับเทศกาลโกลเด้น เชียร์ส จะมีการจัดขึ้นในเดือนมีนาคมของทุกปี ถือไดว่าเป็นการประลองหาที่สุดของช่างตัวขนแกะจากทั่วโลกเลยก็ว่าได้ที่จะมาแข่งขันเพื่อความเป็นหนึ่งในอาชีพของตัวเอง ในตัวนักแข่งเองก็ได้มีการเตรียมความพร้อมมาอย่างเต็มที่ทำให้การแข่งขันมีความน่าสนใจอย่างมากในเทคนิคของแต่ละคนที่จะนำมาแข่งขันกันเพื่อให้เกิดความเร็วที่สุดในการแข่งขัน ถือเป็นเสน่ห์ที่น่าสนใจอย่างมาก

งานเทศกาลอาหารและไวน์ทั่วประเทศ

             ช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงของประเทศนิวซีแลนด์ เป็นช่วงเวลาของการจัดงานเทศกาลอาหารและไวน์ทั่วประเทศ นับเป็นโอกาสดีสำหรับบรรดานักชิมที่จะได้ลิ้มลองรสชาติอาหารเลิศรสของภูมิภาคต่างๆ ในนิวซีแลนด์

เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ 

                             

            ในช่วงฤดูใบไม้ผลิทั่วประเทศจึงร่วมกันจัดเทศกาลสวนและพืชพรรณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานจัดสวนไม้ดอกและพันธุ์พืช Ellerslie Flower Show ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปีที่เมืองอ็อคแลนด์

โอทาโก้ (Otago Festival of the Arts) 

            ในเดือนตุลาคมหรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเทศกาลแห่งเมืองดะนีดิน ( Dunedin Festival) ซึ่งรวม เอาการแสดงดนตรี ละคร เต้นรำ และโอเปร่าจากนักแสดงทั้งพื้นเมืองและนานาชาติมาไว้ด้วยกัน

ช่วงเวลาการท่องเที่ยว

        หลายคนคงชั่งใจอยู่ว่าจะไปเที่ยวนิวซีแลน์ในช่วงไหนดี บางคนบอกฤดูหนาวสิหิมะเยอะดี บางคนบอกฤดูใบไม้ผลิสิ ดอกไม้สวยดี แต่ประเทศนิวซีแลนด์ไม่ได้มีแค่หิมะกับดอกไม้เท่านั้น ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าสนใจ รอให้ท่านไปเยี่ยมชม

        เนื่องจากประเทศนิวซีแลนด์อยู่ในซีกโลกใต้ ดังนั้นยิ่งเดินทางลงใต้มากเท่าไรอากาศก็ยิ่งหนาวขึ้น โดยตอนเหนือสุดของประเทศมีอุณหภูมิเฉลี่ย 15 องศาเซลเซียส และตอนใต้สุดของประเทศมีอุณหภูมิเฉลี่ย 9 องศาเซลเซียส ดั้งนั้นแต่ล่ะท้องที่ของประเทศนิวซีแลนด์จึงมีอุณหภมูิแตกต่างกันออกไป ( สามารถเช็คสภาพอากาศได้ที่เว็บไซต์ www.metsevice.co.nz ) ดังนั้นการท่องเที่ยวในนิวซีแลนด์ควรวางแผนการท่องเที่ยวให้ดีเพราะอาจไม่เป็นดังที่หวังไว้ก็ได้ รายละเอียดสภาพอากาศคราว ๆ มีดังนี้

ฤดูร้อน ( Summer )

ธันวาคม ถึง กุมภาพันธ์

        เห็นชื่อเป็นฤดูร้อนแต่อากาศไม่ร้อนเหมือนประเทศไทยนะ อากาศอบอุ่น เหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ฤดูร้อนของนิวซีแลนด์มีช่วงเวลากลางวันที่ยาวนานและอากาศช่วงเวลากลางคืนอาจหนาวเย็น แนะนำเลยว่าควรเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วย ( บางครั้งหิมะอาจจะตกในช่วงฤดูนี้ด้วยซ้ำ ) และเนื่องจากเป็นฤดูการท่องเที่ยว ควรเตรียมใจไว้เลยว่าค่าที่พักแรมและกิจกรรมต่าง ๆ จึงมีราคาสูงกว่าปกติ แต่ถึงจะแพงยังไงนักท่องเที่ยวก็นิยมไปเที่ยวอยู่ดี ดั้งนั้นถ้าคิดจะไปเที่ยวฤดูนี้ควรจองที่พักไว้ล่วงหน้าไม่งั้นไม่มีที่พักแน่นอน

ฤดุใบไม้ร่วง (Autumn )

มีนาคม ถึง พฤษภาคม

        หลายคนคงคิดช่วงฤดูใบไม้ร่วงไปเที่ยวจะมีอะไรให้ดู แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิด ไปเที่ยวในฤดูนี้จะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีบอกได้เลยว่างดงามมาก นอกจากนี้ทางตอนใต้ของเกาะใต้อาจพบหิมะตกได้ในช่วงปลายฤดู ฤดูนี้ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวทำให้การหาที่พักจึงหาได้ไม่ยากนัก แต่ใช่ว่าจะไม่มีใครไปเที่ยวในช่วงนี้เลย ยังไงก็ควรตรวจสอบที่พักไว้ก่อนก็ดีนะ

ฤดูหนาว ( Winter )

มิถุนายน ถึง สิงหาคม

        เป็นช่วงที่อากาศหนาวเย็นที่สุดแต่ก็ยังมีฝนตกชุกมากอีกด้วย ใครไปเที่ยวในช่วงนี้ ก็ระวังเปียกด้วยล่ะ และบริเวณยอดเขาจึงปกคลุมไปด้วยหิมะ เหมาะสำหรับการเล่นสกีและการเดินบนธารน้ำแข็งมากที่สุด และเนื่องจากพื้นผิวถนนอาจเป็นน้ำแข็งทำให้ถนนลื่นมาก นอกจากนี้ทางหลวงหลายสายมักจะถูกปิดเนื่องจากหิมะปกคลุมหนาเกินไปนั้นเอง ( โดยเฉพาะสายที่ตัดผ่านภูเขา ) และก็อีกเช่นกันการไปเที่ยวก็ควรหาที่พักไว้ก่อน และควรวางแผนการท่องเที่ยวให้ดี

ฤดูใบไม้ผลิ ( Spring )

กันยายน ถึง พฤศจิกายน

        เป็นช่วงที่มีโอกาสเผชิญกับทุกสภาพอากาศตั้งแต่หนาวและหนาวจัด ( เป็นน้ำแข็ง ) ไปจนถึงอุณหภูมิอากาศอบอุ่นจนถึงร้อนเลย เหมือนอารมณ์คนเลย ขึ้น ๆ ลง ๆ ช่วงนี้ต้นไม้จะเริ่มแตกหน่อผลิดอกงดงามทั่วทั้งประเทศ อีกทั้งยังเป็นช่วงที่หิมะกำลังเริ่มละลาย จึงทำให้น้ำภายในแม่น้ำต่าง ๆ ดูสวยงามไปหมด แค่นึกภาพก็อดใจไม่ไหวแล้วอยากไปเที่ยวมากมาย ช่วงเวลานี้ล่ะเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเล่นกีฬาทางน้ำและทำใจเลยอีกเช่นกันว่าที่พักรวมทั้งกิจกรรมต่าง ๆ ก็จะมีราคาสูงขึ้นอีกเช่นกัน สำรองเงินที่จะไปเที่ยวเพิ่มขึ้นด้วยล่ะ เดี๋ยวจะไม่มีของฝากกลับมาฝากคนที่บ้าน

ของฝากจากนิวซีแลนด์

น้ำผึ้ง มานูก้า ของฝากจากนิวซีแลนด์ ( manuka honey )

น้ำผึ้งพิเศษจากประเทศนิวซีแลนด์ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า มีคุณสมบัติในการรักษาผิวอย่างมีประสิทธิภาพ

        น้ำผึ้งถูกนำมาใช้ประโยชน์ตั้งแต่สมัยโบราณ อันเนื่องมาจากคุณสมบัติมหัศจรรย์ในการรักษาผิว ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ได้พบแล้วว่า ในน้ำผึ้งมีเอ็นไซม์พิเศษที่ช่วยต่อต้านแบคทีเรียและสารอนุมูลอิสระ

        นอกจากนี้ ยังมีค้นพบอีกว่าน้ำผึ้งบางชนิดที่เก็บได้จากต้นพุ่มมานูก้า ซึ่งเติบโตเองตามธรรมชาติในประเทศนิวซีแลนด์ มีคุณสมบัติที่เหนือกว่าน้ำผึ้งทั่วไปในการรักษาผิว ต่อต้านแบคทีเรีย ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เรียกสารที่พบในน้ำผึ้งจากต้นพุ่มมานูก้าว่า ยูนีค มานูก้า แฟคเตอร์ (Unique Manuka Factor -UMF) ซึ่งจะพบได้ในน้ำผึ้งบางชนิดจากพุ่มมานูก้าเท่านั้น

        นักวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยไวกาโท ประเทศนิวซีแลนด์ได้ทำงานวิจัยระบุว่า เมื่อใช้น้ำผึ้งกับผิวเฉพาะที่ พบว่าช่วยทำให้กระบวนผลัดเซลล์ผิวใหม่เป็นไปอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวล ช่วยให้สารคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนในผิวทำหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว ฟอร์มตัวได้ดียิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น น้ำผึ้งยังอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ ช่วยปกป้องผิวจากการเสื่อมโทรมเมื่อต้องผเชิญกับมลภาวะต่างๆ

        งานวิจัยยังพบอีกว่า น้ำผึ้งมานูกาชนิดพรีเมี่ยมของนิวซีแลนด์มีระดับสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าน้ำผึ้งประเภทอื่น ทั้งยังช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยจะซึมซาบลึกลงสู่ผิวหนังเพื่อบำรุงและฟื้นฟูสภาพผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และนุ่มนวลยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติในการรักษาจุดด่างดำและสิว รวมไปถึงโรคผิวหนังต่างๆ อาทิ โรคเรื้อนกวางและสะเก็ดเงินอีกด้วย

อาหารและเครื่องดื่มที่ต้องลิ้มลอง

กุ้งมังกร (Crayfish)

อาหารจานเด็ดที่ชาวนิวซีแลนด์เขาเรียกว่าเครย์ฟิชนั้น ถือเป็นกุ้งมังกรชนิดหนึ่งซึ่งเป็นคนละพันธุ์กับเครย์ฟิชในบางประเทศ โดยเขาจะนำเอากุ้งมังกรที่มีอายุระหว่าง 5-10 ปี มาทำเป็นอาหาร ส่วนรสชาติก็บอกได้คำเดียวว่าอร่อยเป็นที่สุด (เนื้อจะออกหวานๆ)

ไวน์ที่มาร์ลโบโรว์ (Marlborough)

ถ้าพูดถึงเรื่องไวน์ ต้องนึกถึงหุบเขาไวราว (Wairau Valley) ในเขตมาร์ลโบโรว์ เพราะเป็นแหล่งปลูกไวน์ที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงมากที่สุดของที่นี่ ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้ประกอบการกิจการไร่ไวน์เกือบ 50 แห่ง โดยมีไร่ไวน์มอนทาน่า (ผู้ผลิตไวน์รายใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์) เป็นเจ้าแรกที่ริเริ่มนำองุ่นพันธุ์ดีมาปลูกในท้องที่แห่งนี้เมื่อช่วงทศวรรษที่ 1970

หอยแมลงภู่เปลือกเขียว (Greenshell Mussel)

นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องกุ้งมังกรแล้ว นิวซีแลนด์ยังขึ้นชื่อเรื่องหอยแมลงภู่ด้วย ถึงขนาดมีเมืองแห่งหอยแมลงภู่เลยทีเดียว (เมืองแฮฟล็อก - Havelock) ซึ่งเมนูอาหารที่นักทานนิยมสั่งกันมีอยู่สองอย่าง ได้แก่ หอยย่าง (Fresh Flats) และ หอยนึ่ง (Fresh Steamers) ทั้งนี้หอยแมลงภู่ย่างจะถูกเสิร์ฟโดยแกะฝาออกเหลือเพียงฝาเดียว เราจึงสามารถนำไปย่างแล้วใส่เครื่องปรุงแบบต่างๆ ได้ ส่วนหอยแมลงภู่นึ่งเขาจะนำไปนึ่งทั้งตัวเลยครับ ก่อนจะยกเสิร์ฟมาเป็นหม้อ เพื่อให้นักชิมลิ้มรสทั้งน้ำและเนื้อไปพร้อมๆ กัน

กีวีรสเยี่ยม (Kiwi)

ก่อนหน้านี้กีวีไม่เป็นที่รู้จักของชาวโลกเท่าไหร่ แต่เมื่อพบว่าการเก็บกีวีไว้ในตู้เย็นหรือห้องเย็น สามารถที่จะรักษาคุณภาพกีวีได้นานถึง 6 เดือน จึงทำให้กีวีเป็นที่รู้จักและแพร่หลายมาก ยิ่งในปี ค.ศ. 1998 ได้มีการค้นพบกีวีสีทอง (Zespri Gold Kiwi) ซึ่งมีเนื้อสีเหลืองและรสชาติหวานฉ่ำกว่าเดิมมาทดแทนพันธุ์สีเขียว (Hayward Green Kiwi) ที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวด้วยแล้ว ยิ่งทำให้กีวีกลายเป็นที่นิยมยิ่งขึ้น

อาหารและเครื่องดื่มในนิวซีแลนด์

อาหาร

อาหาร

                ในนิวซีแลนด์ มีอาหารรสชาติดี ราคาไม่แพงอยู่ทั่วไป เนื่องจากนิวซีแลนด์เป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญ เช่นเนื้อแกะ เนื้อกวางและเนื้อวัว ผลิตภัณฑ์นม อาหารเพื่อสุขภาพ ผลไม้และผัก ราคาไม่แพง นอกจากนี้ยังมีอาหารท้องถิ่น รวมไปถึงอาหารที่นำเข้าจากประเทศอื่นๆ ขายอยู่ทั่วไปอีกด้วย การรับประทานอาหารนอกบ้าน ก็จะมีร้านอาหารให้เลือกมากมาย ตั้งแต่คาเฟ่จนถึงร้านอาหารหรูหรา นอกจากนี้ยังมีอาหารฟ้าสฟู้ด ร้านขายอาหารที่สามารถ “ซื้อกลับบ้าน” ได้ด้วย

               สำหรับไวน์ ในหลายภูมิภาคเป็นแหล่งปลูกองุ่นสำหรับทำไวน์ชั้นดี และในร้านอาหารหลายๆ ร้าน คุณสามารถนำเครื่องดื่มของคุณเข้ามาดื่มในร้านได้ด้วย ซึ่งจะเสียค่าเปิดขวดไม่แพงมาก

                อาหารประจำชาติหลากหลายเชื้อชาติ เช่น อาหารเม็กซิกัน ฝรั่งเศส เกาหลี ไทย จีน อินเดีย ตะวันออกกลาง เมดิเตอร์เรเนียน ญี่ปุ่น กรีก และอื่นๆอีกมากมาย สามารถหาได้ทั่วไปในแต่ละเมือง ตามแผนกอาหารของซุปเปอร์มาเก็ต ตลาดช่วงวันหยุดก็เป็นแหล่งขายอาหารและส่วนประกอบในการทำอาหารเอเชียและชาติอื่นๆ

ตัวอย่างรายชื่ออาหารรสชาติอร่อย ซึ่งสามารถหาชิมได้เมื่อคุณอยู่ที่นิวซีแลนด์

            Anzac biscuits, bacon and egg pie, bran muffins, brandy snaps, coconut buns, kumera, custard squares, fruit mince, fruitcake, gingernuts, hangi (อาหารดั้งเดิมของชาวเมารี), hokey pokey, chocolate fish, pavlova, pies, corned beef, pumpkin soup, sally lunn/boston buns (ชนิดของขนมปังโรยหน้าด้วยน้ำตาลมะพร้าว), scones, Vegemite & Marmite (ทาขนมปังทำเป็นแซนวิช)

ซุปเปอร์มาร์เก็ต

            คนส่วนใหญ่จะซื้ออาหารที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่เปิดช่วงเย็นและวันหยุด ร้านค้าส่วนใหญ่จะมีถุงพลาสติกไว้บริการ หรือบางที่ก็ต้องเตรียมมาเอง นอกจากนี้ยังมีโทรศัพท์บริการฟรีสำหรับเรียกรถแท็กซี่มารับได้

อาหารปลอดสารพิษ

            ซุปเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่ง มีอาหารปลอดสารพิษขาย มีทั้ง ซุปเปร์มาร์เก็ตเฉพาะทางที่ขายอาหารปลอดสารพิษนี้ เช่น Demeter, Bio Gro และอื่นๆ

มื้ออาหาร

† อาหารเช้า ส่วนใหญ่จะเป็น ขนมปังปิ้ง ซีเรียลกับนมและผลไม้ ในช่วงฤดูหนาวจะเป็นอาหารที่ทำจากข้าวโอ๊ตและนม
† อาหารกลางวัน จะเป็น แซนวิช สลัด ซูชิ ผลไม้สด บิสกิตและเค้ก
† อาหารเย็น (มักเรียกว่า “Tea”) จะเป็น เนื้อสัตว์หรือเนื้อปลา มันเทศ ผัก พาสต้าหรือข้าว มื้อนี้จะเป็นมื้อหลักของวัน จะเริ่มตอนประมาณ 6 โมงเย็น

เครื่องดื่ม

เบียร์

            ชาวนิวซีแลนด์มีชื่อเสียงในการดื่มเบียร์ แม้จะมีโรงงานผลิตรายใหญ่เพียงแค่ 2 ราย แต่ก็มีหลากหลายยี่ห้อของแต่ละท้องถิ่น ที่มีรสชาติเฉพาะและได้รับการสนับสนุนมากมาย แต่ถ้าในผับที่เป็นของผู้ผลิตเอง ก็จะไม่มีเบียร์ของคู่แข่งขาย

ไวน์

Wine

           เมื่อเร็วๆ นี้ อุตสาหกรรมผลิตไวน์ ได้พัฒนาเข้าสู่ธุรกิจการส่งออก ไร่องุ่นหลายๆ แห่ง จัดให้มีทัวร์ชมไร่องุ่น ชิมไวน์ และขายผลิตภัณฑ์ไวน์จากไร่

แอลกอฮอล์

            คุณควรระมัดระวัง การดื่มสุราในที่สาธารณะ เนื่องจากนิวซีแลนด์เพิ่งจะเริ่มกำหนดเขตปลอดแอลกฮอล์สำหรับบางพื้นที่ ดังนั้นคุณไม่สามารถดื่มหรือแม้แต่ถือเครื่องดื่มแอลกฮอล์บนถนนบางแห่ง เช่นในเขตกลางเมืองหรือชายหาดที่มีผู้คนจำนวนมาก ทั้งกลางวันและกลางคืน ตำรวจจะสั่งให้คุณเททิ้งและถ้าคุณไม่ทำตามก็จะถูกจับได้

ร้านกาแฟ

โดยทั่วไปจะเปิดในช่วงกลางวัน ตามเมืองต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยว The cafe culture มีอยู่ที่กลางเมืองเวลลิงตัน ซึ่งจะมีพนักงานมานั่งตอนช่วง tea breaks เป็นที่ได้รับความนิยมแทน คาเฟ่ของสำนักงาน ในช่วงฟื้นฟูการบริการสาธารณะ ในปี 1980s และ 1990

ประเภทของกาแฟ

† Short Black/espresso — กาแฟดำเข้มข้น 1 ช็อท (25 – 30 ml)
† Long Black — กาแฟเข้มข้น (double espresso) กับน้ำร้อนอีกครึ่งหนึ่งของแก้ว
† Flat White — กาแฟเข้มข้นและมีครีมของนมร้อนแต่ไม่มีฟองนม
† Latte — กาแฟแก้วใหญ่ (double espresso) มีครีมนมเข้มข้น และมีฟองนมด้วย (ฟองนมอยู่ด้านบนแต่กาแฟอยู่ด้านล่าง)
† Cappuccino — เป็นการผสมกันระหว่าง espresso 1/3 นมร้อน 1/3 และครีม 1/3 ที่เหลือก็เป็นฟองนม ด้านบนโรยด้วยผง chocolate หรือ cinnamon
† Americano — กาแฟเข้มข้นผสมน้ำร้อน
† Moccaccino – ใช้ chocolate ร้อนแทนนม
† Affogato — ไอศครีมวานิลลา 1 ก้อน เสิร์ฟกับกาแฟ espresso ในแก้วขนาดพิเศษ
† Macchiato — Espresso 2 ช็อท เสิร์ฟในแก้วขนาดเล็ก
† Corretto — black espresso ผสมกับแอกฮอล์เล็กน้อย
† Vienna — กาแฟดำครึ่งหนึ่งผสมกับ วิปครีมและโรยด้วยผง chocolate

ในคาเฟ่ มักจะมีนมเตรียมไว้ให้มากกว่า 1 เหยือก แยกตามสี คือ สีฟ้าเข้มเป็นนมธรรมดา สีฟ้าอ่อน ไขมันต่ำ และสีเขียวสำหรับคนที่ลดน้ำหนัก

น้ำขวด

             มีทั้งที่มีรสชาติและไม่มีรสชาติ ขายตามร้านค้าทั่วไป แต่น้ำประปาบางเมืองที่ผู้ผลิต ใช้น้ำจากแม่น้ำและใส่คลอรีน ถ้าคุณไม่ต้องการเสียเงินซื้อน้ำ ก็สามารถเติมน้ำจากก็อกน้ำได้ แต่ก็อาจจะรู้สึกถึงรสชาติของคลอรีนที่มากหน่อย

Saxton Pear Cider

น้ำประปาในนิวซีแลนด์สะอาดมากแห่งหนึ่งของโลก สามารถใช้ดื่มได้ในทุกเมือง ส่วนใหญ่มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ หรืออ่างเก็บน้ำ อย่างไรก็ดีก็มีบ้างที่มาจากแม่น้ำ ซึ่งจะใช้คลอรีนในการฆ่าเชื้อ มีความปลอดภัยแต่รสชาติไม่ดีนัก น้ำในโอ้คแลนด์มาจากแม่น้ำ Waikato ซึ่งเป็นแม่น้ำสายยาวที่มีต้นกำเนิดมาจาก Taupo แต่คุณภาพน้ำในโอ้คแลนด์ก็ไม่แตกต่างหรือดีกว่าน้ำในแม่น้ำเทมส์ในลอนดอน หรือแม่น้ำ ฮัดสันในนิวยอร์ค น้ำประปาในเมือง Christchurch และ Hastings ไม่ใช้คลอรีน เนื่องจากเป็นน้ำที่มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่สะอาดบริเวณที่ราบ Canterbury และ Heretaunga (ที่เดียวกับที่นำน้ำมาบรรจุขวดและทำเครื่องดื่มอื่นๆ)

น้ำอัดลม

             L & P หรือ Lemon & Paeroa มีชื่อเสียงมากในนิวซีแลนด์ เป็นเครื่องดื่มน้ำมะนาวอัดลม รสหวาน บรรจุในขวดพลาสติกสีน้ำตาล ฉลากสีเหลือง ตอนแรกเป็นขวดแก้วสีน้ำตาล (เหมือนขวดเบียร์) ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นขวดพลาสติก เหมาะสำหรับเด็กหรืองานปาร์ตี้ (มีส่วนผสมของวิสกี้) แม้ว่าขวดจะมีขนาดใหญ่ แต่นักท่องเที่ยวก็นิยมดื่มกัน

เมืองสำคัญในนิวซีแลนด์

โอกแลนด์ (Auckland)

เมืองหลักแห่งประเทศนิวซีแลนด์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของประเทศแห่งนี้มีสนามบินนานาชาติตั้งอยู่ จึงเป็นเปรียบเสมือนเมืองหน้าด่านแห่งเกาะเหนือที่รองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งในเมืองโอกแลนด์นั้นมีทั้งสกายทาวเวอร์ (Sky Tower) ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมือง ตัวเมืองที่มีความทันสมัย ตลอดจนแหล่งชอปปิงที่น่าสนใจอีกมากมาย

ไครสต์เชิร์ช (Christchurch)

ไครสต์เชิร์ชเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศและมีสนามบินนานาชาติตั้งอยู่เช่นเดียวกับโอกแลนด์ เมืองนี้จึงได้รบสมญานามว่าประตูสู่เกาะใต้ซึ่งในเมืองมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่กลมกลืนกับธรรมชาติอย่างลงตัว เพราะมีแม่น้ำเอวอน (Avon River) ไหลตัดผ่านเข้ามาในเมือง

เวลลิงตัน (Wellington)

เมืองหลวงของประเทศนิวซีแลนด์แห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะเหนือ โดยในตัวเมืองจะใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ และมีความโดดเด่นอยู่ที่บ้านเรือนที่สร้างตามไหล่เขา นอกจากนั้นยังเป็นเมืองท่าที่นักท่องเที่ยวต้องเดินทางมาขึ้นเรือข้ามฝากไปยังเกาะใต้ด้วย

ควีนส์ทาวน์ (Queenstown)

เมืองหลวงแห่งการผจญภัย ที่เปรียบเหมือนสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบความท้าทายและการผจญภัยทุกชนิดในทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นการขี่จักรยานเสือภูเขา (Mountain Biking), กระโดดบันจี้จัมป์ (Bungy Jumping), ล่องแก่ง (Whitewater Rafting), นั่งเรือเจ็ต (Jet-boating), ดิ่งพสุธา (Skydiving), สกีและสโนว์บอร์ด (Skiing & Snowboarding) และอื่นๆ อีกมากมาย

เมืองนักขุดทอง แอร์โรทาวน์ (Arrowtown)

บริเวณเชิงเขาห่างจากควีนส์ทาวน์ 20 กิโลเมตร เราจะพบเมืองขุดทองเก่าที่อนุรักษ์เอาไว้อย่างดีที่สุด และเป็นเพียงหนึ่งในเมืองขุดทองสมัยเก่าที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งที่ไม่ได้แปรสภาพเป็นเมืองร้าง หรือเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นเมืองที่พัฒนาอย่างทันสมัยเช่นทุกวันนี้

ไคคุรา (Kaikoura)

เมืองตากอากาศที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมากเรื่องการชมปลาวาฬ แมวน้ำและสัตว์น้ำหลากชนิด (ไคคุราเป็นเพียงที่เดียวในนิวซีแลนด์ที่สามารถพบเห็นปลาวาฬได้ตลอดทั้งปี) รวมไปถึงนกทะเลมากมาย ได้แก่ Royal Albatross, Wandering Albatross, Grey Petrel, Antarctic Fulmer และ Black-Browed Mollymawk

โรโตรัว (Rotorua)

เมืองแห่งบ่อน้ำร้อนอันมีชื่อของเกาะเหนือ หรือมีชื่อเรียกเล่นๆ ว่า เมืองกำมะถัน (Sulphur City) เพราะไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนของเมือง ก็จะได้กลิ่นคล้ายไข่เน่าของก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ (Hydrogen Sulphide) ซึ่งปะปนอยู่ในไอน้ำที่ผุดออกมาจากหลุมน้อยใหญ่และรอยแยกมากมายนับไม่ถ้วนที่กระจายอยู่ทั่วทั้งเมือง โดยมีโพลีนีเชียนสปา (Polynesian Spa) สปาที่มีชื่อเสียงระดับโลกด้านการบำบัดและความร้อนเป็นตัวชูโรง